รางน้ำฝน สิ่งสำคัญของบ้านทุกหลังที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากน้ำฝน โดยจะติดไว้รอบชายคาเพื่อรองรับน้ำฝนที่ไหลลงจากหลังคาไหลไปยังท่อระบายน้ำ แล้วทุกคนรู้หรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็นรางน้ำฝนในปัจจุบันนี้ รางน้ำฝนมีต้นกำเนิดมาจากอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์จากที่ตกทอดมาจากอดีตอย่างแท้จริง
ในบทความนี้จะมาแนะนำประวัติความเป็นมาของรางน้ำฝนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันกัน
สถานที่เริ่มต้นและจุดกำเนิดของรางน้ำฝน
แต่เดิมแล้วรางน้ำฝนที่เก่าแก่ที่สุดมีต้นกำเนิดในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยรางน้ำฝนในยุคนั้นทำขึ้นจากอิฐดินเผา ต่อมาเมื่อจักรวรรดิโรมันเข้ามามีบทบาทในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ พวกเขาได้วางระบบระบายน้ำบนถนนขึ้นมา โดยสร้างถนนให้สูงขึ้นและวางอิฐดินเผาขนาบไว้ด้านข้างเพื่อให้น้ำฝนที่ตกลงบนถนนไหลสู่ “รางน้ำฝน” ข้างถนนนั่นเอง ซึ่งอารยธรรมการวางรางน้ำฝนนี้ถูกค้นพบและนำไปใช้อีกครั้งในประเทศอังกฤษช่วงปีคริสต์ศักราชที่ 47
- ศตวรรษที่ 10 ถึง 13
ในช่วงการปกครองของจักรวรรดินอร์มันระหว่างศตวรรษที่ 10 ถึง 13 ระบบรางน้ำได้ถูกรวมเข้ากับสถาปัตยกรรม โครงสร้างหลายแห่งถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นหลังคาหินมี “เชิงเทิน” ที่สามารถเดินขึ้นไปได้ มีระบบรางน้ำฝนโดยติดตั้งท่อน้ำฝนในปากของรูปปั้นการ์กอยล์ สำหรับระบายน้ำฝนจากเชิงเทิน โดยให้น้ำไหลออกมาจากปากของการ์กอยล์เพื่อป้องกันน้ำขังบนเชิงเทิน
หอคอยลอนดอนเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ภายในตัวอาคารมีรางน้ำฝน ในสมัยนั้นพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ทรงขอให้ผู้ดูแลหอคอยขยายรางน้ำฝนตะกั่ว เพื่อป้องกันกำแพงสีขาวของตัวอาคาร นับเป็นรูปแบบรางน้ำฝนรางแรกที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต่อมาพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้แยกคริสตจักรออกจากอำนาจของสมเด็จพระสันตะปาปาและมีคำสั่งให้ยุบอาราม ตัดรายได้และทรัพยากรจากสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด รัฐบาลและขุนนางผู้จึงได้ยึดทรัพย์สินที่มีค่าของอารามสงฆ์และสำนักชี ทำให้ได้พบรางน้ำฝนตะกั่ว ทำให้ข่าวแพร่กระจายออกไปสู้สาธารณชน และเพราะว่ารางน้ำฝนตะกั่วมีราคาเข้าถึงง่ายผู้คนทั่วสหราชอาณาจักรจึงนำมาใช้งานกับบ้านเรือนของตัวเอง
- ศตวรรษที่ 18
ต้นปีคริสต์ศักราชปีที่ 1700 ได้มีการค้นพบและจัดจำหน่ายในช่วงเวลานั้นทำให้ผู้ผลิตรางน้ำฝนหลายเจ้าใช้เหล็กหล่อแทนตะกั่ว ในช่วงปลายศตวรรษมีการใช้ไม้แกะสลักเป็นรูปตัว V มาติดกับตัวบ้านเพื่อเพิ่มความหรูและใช้เป็นรางน้ำฝนไปในตัว ต่อมาได้มารางน้ำฝนสังกะสีก็ถูกผลิตขึ้นมาและได้รับความนิยมมากในช่วงเวลานั้น
เมื่อเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้น วัสดุสำหรับทำรางน้ำฝนมีราคาถูกลง จึงมีเกิดการผลิตจำนวนมาก ส่งผลให้การใช้รางน้ำฝนกลายเป็นเรื่องทั่วไปที่พบได้ในยุควิคตอเรียน เพราะชาววิคตอเรียนเริ่มเข้าใจถึงระบบระบายน้ำฝนว่าช่วยป้องกันไม่ให้น้ำฝนกระทบตัวบ้านโดยตรงทำให้กำแพงแห้ง คนในบ้านป่วยน้อยลง และช่วยป้องกันหน้าดินพังจากน้ำฝนที่ตกลงมากระทบกับหน้าดินโดยตรง ทำให้สวนหรือบริเวณพื้นดินรอบบ้านไม่ได้รับความเสียหายจากฝนตกหนัก
- ศตวรรษที่ 20
ต้นคริสต์ศักราชปีที่ 1900 “เหล็ก” กลายเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการนำมาใช้ทำรางน้ำฝน เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทาน เทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนารางน้ำฝนในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 คือ เครื่องรีดโลหะ ที่ช่วยให้สามารถม้วนรางน้ำฝนเหล็กให้โค้งกลมทำให้สามารถติดตั้งตรงขอบบ้านและอาคารได้อย่างดี
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล็กกลายเป็นวัสดุที่หาได้ยาก อะลูมิเนียมจึงถูกนำมาใช้ผลิตแทน เพียงไม่นานรางน้ำฝนอะลูมิเนียมก็กลายเป็นที่พบเห็นได้มากที่สุด เนื่องจากน้ำหนักที่เบาและมีความแข็งแรงไม่แพ้เหล็ก ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน เริ่มมีผู้ผลิตบางเจ้าเริ่มพัฒนาวัสดุพลาสติกเพื่อนำมาใช้สำหรับการทำรางน้ำฝนด้วยเช่นกัน
มาถึงช่วงคริสต์ศักราชปีที่ 1960 เริ่มมีการใช้รางน้ำฝนไร้รอยต่อและได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตรางน้ำฝนไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากช่างทำต้องใช้เครื่องรีดขึ้นรูปโลหะในการขึ้นรูปรางน้ำฝนหน้างาน เพื่อลดรอยต่อของรางน้ำฝนและให้ความยาวของรางน้ำฝนพอดีกับตัวบ้าน และไม่นานรางน้ำฝนไร้ตะเข็บก็ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 1980 ในขณะเดียวกัน ตะแกรงรางน้ำฝนก็ถูกผลิตขึ้นและจัดจำหน่ายสู่ตลาดในช่วงเวลานั้นด้วยเช่นกัน ปัจจุบันก็มีการพัฒนารางน้ำฝนขึ้นมาอีกมากมายและที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้คือรางน้ำฝนที่ทำจากไวนิล
รางน้ำฝนไวนิล
รางน้ำฝนไวนิล คือ รางน้ำฝนที่ผลิตจากพลาสติก หรือ uPVC มีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน แข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศแวดล้อมทั้งแดดและฝน อีกทั้งยังสวยงามเข้ากับบ้านได้ทุกแบบ ทุกสไตล์
บริการติดตั้ง-ต่อเติม รางน้ำฝน VG โดยทีมช่างมืออาชีพ
ใครที่กำลังสนใจติดตั้งรางน้ำฝน ขอแนะนำรางน้ำฝนไวนิล VG ที่มีนวัตกรรม iR-uPVC ที่ยกระดับไวนิลให้เหนือกว่าไวนิลทั่วไป สร้างความแข็งแรง ทนทาน และพร้อมท้าชนทุกสภาพอากาศ รางน้ำฝนไวนิล VG มีเทคโนโลยีการปกป้อง ถึง 2 ชั้น หรือ Double Layers ซึ่ง VG คิดค้นและตั้งใจออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยโดยเฉพาะ พร้อมบริการติดตั้งโดยทีมช่างมืออาชีพ บริการครบ จบที่เดียว
สามารถสอบถามและปรึกษา VG ผ่านช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
โทร. : 087-654-7788
อีเมล : info@mycnpgroup.com
LINA OA: @vg-cnp
Facebook: VG รางน้ำและหลังคาไวนิล