fbpx
รางน้ำไวนิล

เปรียบเทียบสังกะสีกับเมทัลชีท ต่างกันอย่างไร?

สังกะสีกับเมทัลชีทอะไรได้รับความนิยมมากกว่ากันในปัจจุบัน

       ในอดีตวัสดุหลังคาที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ สังกะสี เพราะมีราคาถูก ติดตั้งง่าย มีจำหน่ายทั่วไป ผู้คนจึงเลือกใช้หลังคาสังกะสีมาติดตั้งให้กับบ้าน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป วิวัฒนาการ การผลิตวัสดุหลังคาก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ  มีวัสดุหลังคาที่ออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง ทนทาน แก้ปัญหาสนิม การรั่วซึม และอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ปัจจุบันหลังคาจึงมีตัวเลือกมากขึ้น ทั้งหลังคาเมทัลชีท, หลังคาไวนิล, โพลีคาร์บอเนต, อะคลิริก, ไฟเบอร์กลาส, หลังคา PVC, หลังคา APVC ฯลฯ

       ในปัจจุบันเมทัลชีท เป็นที่นิยมมากกว่าสังกะสี และถือว่าเป็นวัสดุหลังคาที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คนแทบจะไม่รู้จักหลังคาเมทัลชีทเลยด้วยซ้ำไป คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าหลังคาเมทัลชีทแตกต่างจากหลังคาสังกะสีมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลังคาเมทัลชีทต่างจากสังกะสี แค่ธาตุโลหะที่ใช้ในการเคลือบผิวเท่านั้นเอง

 

หลังคาสังกะสี (Zinc sheet)

   หลังคาสังกะสี (Zinc  sheet) คือ หลังคาที่ทำมาจากแผ่นเหล็กเคลือบโลหะสังกะสีเกือบ 100% มีกระบวนการผลิต โดยการนำแผ่นเหล็กไปชุบหรืออาบโลหะสังกะสีด้วยความร้อน ทำให้ผิวมีความันเงา

 

เมทัลชีท (Metal Sheet)

หลังคาเมทัลชีท (Metal sheet) หรือ แผ่นอลูซิงค์ (Aluzinc sheet)  คือ หลังคาที่ทำมาจากแผ่นเหล็กเคลือบโลหะ สัดส่วนอะลูมิเนียม 55% กับสังกะสี 45% มีกระบวนการผลิตโดยนำแผ่นเหล็กไปชุบโลหะผสมด้วยความร้อนอย่างต่อเนื่อง ลักษณะผิวมีความด้านกว่าสังกะสี

   📢ความแตกต่างของสังกะสีกับเมทัลชีท คือ โลหะที่ใช้ในการเคลือบเท่านั้น

 

สังกะสี (Zinc sheet)

เหมาะสำหรับ : สายงบน้อย ต้องการหลังคาใช้งานแบบกันแดด กันฝน ได้ทั่วไป ไม่สนใจเรื่องความสวยงาม ความทนทาน ไม่ซีเรียสเรื่องเสียงดังเวลาฝนตก และสามารถทนกับความร้อนของสังกะสีได้

ข้อดี : ราคาถูกกว่าวัสดุหลังคาแบบอื่น ๆ มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย มีหลายขนาด มีหลายสีให้เลือก ราคาจำหน่ายแตกต่างกันไป ตามสีและคุณภาพของสังกะสี

ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นโลหะ จึงเกิดสนิมได้ง่าย มีปัญหาเรื่องการเปราะ แตก และเป็นรู เกิดปัญหารั่วซึมได้ง่าย เสียงดังมากเวลาฝนตก ไม่ทนต่อแรงลม  ไม่สามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้ (บริเวณจังหวัดใดที่มีลูกเห็บตกในช่วงฤดูฝนอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่ควรติดตั้งหลังคาสังกะสี) ไม่สวย ไม่ทันสมัย ไม่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น และบ้านสมัยใหม่   

อายุการใช้งาน :  เฉลี่ยประมาณ  2 – 5 ปี (ไม่นานเพราะจะขึ้นสนิมเร็ว ทำให้ผุง่าย)

 

เมทัลชีท (Metal Sheet)

เหมาะสำหรับ : สายประหยัด กันแดด กันฝนได้ทั่วไป ไม่เน้นเรื่องความสวยงามและ ความทนทานมากนัก

ข้อดี : สะท้อนความร้อนได้ดีกว่าสังสะกี มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายสามารถดัดองศาได้มากตามต้องการ อีกทั้งยังมีหลากหลายสีสันให้เลือก และมีราคาที่ไม่แพงมาก

ข้อเสีย : สามารถกันแดดกันฝนได้ทั่วไป  คนส่วนใหญ่มองว่าเมทัลชีทไม่เกิดสนิม แต่จริง ๆ แล้วสามารถเกิดสนิมได้จากรูที่ยึดสกรู และด้วยความที่เป็นเหล็ก จึงกักเก็บและแผ่รังสีความร้อนค่อนข้างเยอะกว่าวัสดุชนิดอื่น ทำให้บ้านร้อน (ปัจจุบันจึงมักติดตั้งฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติมด้วย) อีกทั้งยังมักจะเกิดเสียงดังมากเวลาฝนตก และความบางของเหล็ก เมื่อผ่านระยะเวลานาน ๆ จะเกิดการชำรุดและผิดรูปได้ง่ายครับ

อายุการใช้งาน : เฉลี่ยประมาณ  10-20 ปี (ขึ้นอยู่กับเกรดที่ใช้ ซึ่งเช็คยากมาก ดูไม่ออกด้วยตาเปล่า ซึ่งอายุอาจจะสั้นลงหากติดใกล้ทะเล เพราะไอเกลือจากทะเลกัดกร่อนวัสดุ อีกทั้งไอเค็มจะกัดกร่อนเหล็ก และโลหะจนขึ้นสนิมได้ง่าย) 

 

หลังคาเมทัลชีทติดฉนวนกันความร้อน PE Foam ,PU Foam  เป็นการติดตั้งหลังคาโดยใช้วัสดุหลังคาเมทัลชีท และมีการติดฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น PE Foam หรือ PU Foam โดยจะสามารถกันความร้อนได้ดีกว่าการติดหลังคาเมทัลชีทแบบเปล่า ๆ ในปัจจุบันการติดตั้งแบบนี้ ได้รับความนิยมมากพอสมควร สำหรับใครที่อยากอ่านเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ PE Foam กับ PU Foam แบบเต็ม ๆ สามารถติดตามได้ในบทความถัดไปของทาง VG ได้เลยครับ

 

เป็นยังไงกันบ้างครับ พอจะตอบคำถาม คลายข้อสังสัยได้แล้วใช่ไหมละครับ ว่าสังกะสีกับเมทัลชีท ต่างกันอย่างไร เชื่อว่าวันนี้หลาย ๆ คนก็คงได้คำตอบกันแล้ว นอกจากสังกะสีกับเมทัลชีท ยังมีวัสดุหลังคาอีกหลากหลายประเภทในท้องตลาดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นไวนิล (Vinyl),แผ่นโพลีคาร์บอเนต ลูกฟูก (Polycarbonate),อะคลิริก (Acrylic),ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) ซึ่งแต่ละวัสดุก็มีความแตกต่างกันมากทีเดียว วัสดุแบบไหนจะเหมาะกับความต้องการของเจ้าของบ้านแบบคุณ สามารถดูข้อมูลเปรียบเทียบเพิ่มเติมได้ครับ (อ่านข้อมูลเปรียบเทียบวัสดุหลังคาเพิ่มเติม ใส่ hyperlink blogเปรียบเทียบหลังคา) สำหรับใครที่อ่านแล้วถูกใจ ฝากไปกดไลก์ กดแชร์เป็นกำลังใจให้ VG ได้ที่เพจ Facebook : VG รางน้ำและหลังคาไวนิล จะได้ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ ข้อมูลปัง ๆ เคล็ดลับการดูแลรักษาบ้านกันนะครับ


บทความที่เกี่ยวข้องกับรางน้ำฝน

ระแนงไวนิล ต่อเติมครัวส่วนตัว ทนทาน ดูแลง่าย

ปัญหาเสียงดังในโรงงาน? แก้ได้! รู้จักหลังคากันเสียงพร้อมเคล็ดลับวิธีเลือก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ หมดกังวลเรื่องเสียงดัง! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ VG วันนี้!
บทความที่เกี่ยวข้องกับรางน้ำฝน

รางน้ำฝนสำคัญจริงไหม! ทำไมต้องมีและดีอย่างไร?

รางน้ำฝน ถือเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่สำคัญและมีประโยชน์มาก สำหรับบ้านในเมืองไทยที่มีฝนตกเฉลี่ย 4-6 เดือน/ปี เพราะเวลาที่ฝนตกหนักๆ น้ำฝนจากหลังคาที่ไม่ติดรางน้ำฝน ก็จะไหลตกลงสู่พื้นด้านล่างโดยตรง จนสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้าน สิ่งปลูกสร้าง หรือแม้แต่ต้นไม้ที่เราปลูกเอาไว้รอบๆ บ้าน ดังนั้น รางน้ำฝนจึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันไม่ให้บ้านของเราเกิดความเสียหายนั่นเอง มาดูกันว่ารางน้ำฝนมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
บทความที่เกี่ยวข้องกับรางน้ำฝน

เลือกรางน้ำฝนแบบไหนดีที่สุด!

ประเทศไทย มีอากาศแบบร้อนชื้น มีฝนตกเฉลี่ยปีหนึ่งประมาณ 4-5 เดือน หรือทางใต้นี่ตกตลอดเกือบทั้งปี รางน้ำฝนจึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างมาก ที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย รางน้ำฝน จริงๆ แล้ว! สำคัญสุดเลย คือ ช่วยไม่ให้บ้านทรุด เพราะหากบ้านทรุดขึ้นมา จะเป็นปัญหาที่แก้ไม่รู้จบเลยค่ะ และรางน้ำฝนช่วย ป้องกันผนังเป็นเชื้อรา ที่เกิดจากการกระเซ็นของน้ำฝน ลดปัญหาน้ำซึมเข้าสู่หลังคา และตามซอกประตูหรือหน้าต่างอีกด้วย หากเราติดตั้งรางน้ำฝนให้กับบ้าน ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงบ้านไปได้เยอะมากเลยค่ะ วันนี้เราจะแชร์ความรู้ ที่ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ ทั้งเรื่องงบประมาณ ความแข็งแรง คงทน รวมไปถึงความสวยงามที่ลงตัวกับบ้าน ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเล้ยยย...
บทความที่เกี่ยวข้องกับรางน้ำฝน

เปิดเหตุผลที่คนรักต้นไม้ควรติดตั้งรางน้ำฝนไว้กับตัวบ้าน

เชื่อว่ามีหลายครอบครัวชื่นชอบที่จะปลูกต้นไม้เอาไว้เพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้าน มีความสวยงาม รวมถึงยังได้ทำกิจกรรมยามว่างเพลิน ๆ อีกด้วย แต่ปัญหาที่มักมองข้ามไปสำหรับคนรักต้นไม้เมื่อปลูกบริเวณบ้านคือ พอถึงช่วงฝนตกหนักประกอบกับบ้านไม่ได้มี “รางน้ำฝน” ที่คอยรับปริมาณน้ำจากหลังคา ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากตามมาแบบไม่จบสิ้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด หากต้องการให้พื้นที่สีเขียวของคุณยังคงอยู่ในสภาพดี แถมตัวบ้านเองไม่เกิดความเสียหาย
Inbox
Call
Line