สิ่งแรกๆ ที่เรามักจะสังเกตเกี่ยวกับตัวบ้าน นอกจากสีกำแพงและรั้วแล้วก็คงหนีไม่พ้นสีหลังคาบ้านและรางน้ำฝน ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของตัวบ้าน เป็นเอกลักษณ์ทำให้บ้านดูโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้อาจมีหลายคนที่คิดอยากทำสีหลังคาหรือสีรางน้ำฝนใหม่ อาจเพราะผ่านการใช้งานมาเป็นเวลาหลายปี หรือบางคนอาจกำลังวางแผนสร้างบ้านใหม่ ซึ่งคำถามที่ทุกคนสงสัยก็คือ “เลือกรางน้ำฝน เลือกหลังคาบ้านสีอะไรดี?”
ดังนั้นมาดูไปพร้อมกันว่า เลือกสีหลังคาบ้านอย่างไรดี และสีรางน้ำฝนควรเป็นสีไหน เพื่อให้เหมาะสมกับตัวบ้าน เป็นไอเดียให้เจ้าของและว่าที่เจ้าของบ้านทุกท่านนำไปใช้
สีหลังคาบ้าน ควรเลือกอย่างไรดี?
ในการเลือกสีหลังคาบ้าน อันดับแรก ควรสำรวจวัสดุของหลังคาก่อน เนื่องจากวัสดุแต่ละประเภทมีลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้สีหลังคาดูต่างกันไปด้วยนั่นเอง โดยทั่วไป วัสดุหลังคาที่พบได้บ่อยมีอยู่ 4 ประเภทหลัก ได้แก่
1. หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet)
คือ แผ่นหลังคาที่ผลิตจากเหล็ก ส่วนมากมักเป็นแผ่นบาง พร้อมเคลือบด้วยสารป้องกันสนิม และทาสีทับอีกชั้นหนึ่ง มีลักษณะมันเงา แวววาว และสะท้อนแสงได้ดี อีกทั้งมีข้อดี เช่น น้ำหนักเบา รองรับองศาหลังคาที่ต่ำได้ คลายความร้อนได้ดี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังนิยมติดตั้งร่วมกับรางน้ำฝนสแตนเลส
อย่างไรก็ตาม หลังคาประเภทนี้อาจไม่ได้รับความนิยมในการสร้างบ้านสมัยใหม่มากนัก แต่จะพบได้บ่อยตามโรงงานอุตสาหกรรม หรืออาคารสำเร็จรูปที่ต้องการความรวดเร็วในงานก่อสร้าง และไม่นิยมทาสี เพราะอาจทำให้สารเคลือบเสื่อมสภาพลงก่อนสมควร ส่วนใหญ่จึงมักเป็นสีเงินของเหล็ก ซึ่งอาจไม่เข้ากับการตกแต่งบ้านเรือนเท่าไหร่นัก
2. หลังคากระเบื้องลอนคู่ หรือกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์
วัสดุหลังคากระเบื้องลอนคู่นั้นทำมาจากส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเส้นใยสังเคราะห์อย่างซิลิกา จึงเป็นหลังคาที่แข็งแรง เนื้อเหนียวยืดหยุ่น แต่ยังมีน้ำหนักที่เบา และคุณสมบัตินำความร้อนต่ำ ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านได้ดีในระดับหนึ่ง และยังสามารถหาซื้อได้สะดวก จึงมักนิยมใช้ทำหลังคาบ้าน รวมไปถึงโรงรถหรือส่วนต่อขยายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นจากโครงบ้านเดิม ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและหรูหราไปพร้อมๆ กัน
กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์มีลักษณะพื้นผิวที่ด้าน แต่อาจมีความเงาบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชั้นเคลือบหรือสีที่ใช้ ที่สำคัญคือ มีสีหลังคาบ้านให้เลือกหลากหลายแบบ สามารถเลือกให้เข้ากับสีของตัวบ้านได้ง่ายๆ อีกทั้งลายลอนคู่ยังให้ความเป็นระเบียบสวยงาม นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งร่วมกับรางน้ำฝนไวนิลหรือ PVC ได้อย่างลงตัว
3. หลังคากระเบื้องคอนกรีต
คอนกรีตมักเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรรทั่วไป เพราะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง หนาแน่นสูง ดูดซับความร้อน และทนทานต่อสภาพอากาศ โดยทั่วไป ลักษณะของกระเบื้องคอนกรีตจะมีพื้นผิวขรุขระเล็กน้อย มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบและด้าน จึงเป็นที่แนะนำให้เลือกสีโทนสว่างเพื่อช่วยสะท้อนความร้อนออกไประดับหนึ่ง แต่ก็สามารถเลือกใช้สีอื่นๆ ที่เข้ากับการตกแต่งบ้านได้เช่นกัน จึงสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์บ้านต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น บ้านโมเดิร์น มินิมอล คลาสสิก หรืออื่นๆ
4. หลังคากระเบื้องดินเผา
กระเบื้องดินเผาเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ถูกนำมาใช้งานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นกระเบื้องที่ระบายความร้อนได้ดี เหมาะกับอากาศในประเทศไทย อายุการใช้งานยาวนาน มีอัตราซึมน้ำต่ำ ช่วยป้องกันการรั่วซึมและการเกิดเชื้อราได้ดี อีกทั้ง กระเบื้องหลังคาประเภทนี้ผลิตจากดินเผา ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ จึงออกแบบได้หลายลวดลาย หลายทรง อาทิ ลายดอกจิก ลายเกล็ดปลา ลายสุโขทัย ฯลฯ ส่งผลให้กระเบื้องชนิดนี้เป็นที่นิยมกับบ้านเรือนไทย รวมถึงกลุ่มของโบสถ์ และหลังคาวัดต่างๆ ซึ่งด้วยลักษณะของตัวกระเบื้อง อาจดูไม่เข้ากับบ้านสมัยใหม่ แต่สำหรับใครที่มีบ้านทรงไทยแล้ว หลังคากระเบื้องดินเผาถือว่าเหมาะอย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากวัสดุทำหลังคาบ้านแล้ว โทนสีหลังคาบ้านยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การเลือกโทนสีหลังคาบ้าน
แน่นอนว่าเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ต้องการเลือกสีหลังคาให้เข้ากับสีของกำแพง ประตู-หน้าต่าง หรือแม้กระทั่งรั้วบ้าน ทั้งนี้ เราก็มีไอเดียการจับสีคู่มานำเสนอ ได้แก่
- บ้านสีโทนกลาง - สำหรับใครมีผนังบ้านเป็นสีขาว สีเทา สีเบจ หรือสีครีม ขอแนะนำให้ทาสีหลังคาบ้านรวมถึงรางน้ำฝนให้เป็นโทนสีอ่อน โทนสีกลาง หรือโทนสีเข้ม เพื่อให้ล้อไปกับตัวบ้าน หรือสร้างมิติแก่ตัวบ้าน
- บ้านสีโทนสว่าง สดใส - ส่วนบ้านที่มีกำแพงสีแดงสด สีฟ้าสดใส สีเหลือง หรือสีในโทนสว่างโดดเด่น แนะนำให้เลือกสีหลังคาและสีรางน้ำฝนเป็นโทนกลาง เช่น สีขาว สีเทาอ่อน หรือสีเข้มอย่างสีน้ำตาล ก็ยิ่งช่วยให้กำแพงบ้านดูมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น
- บ้านสีโทนเข้ม - สามารถเลือกสีหลังคาที่เป็นสีใกล้เคียงกับตัวบ้าน แต่หากไม่ต้องการให้บ้านดูมืดทึบจนเกินไป ก็สามารถเลือกสีหลังคาโทนสว่างสดใสแทนได้เลย ส่วนสีรางน้ำฝน ก็ติดตั้งได้ทั้งแบบสีเข้มและสีสว่าง
สีรางน้ำฝน เลือกแบบไหนถึงเข้ากับหลังคาบ้าน?
เมื่อมีสีหลังคาบ้านที่โดนใจ เข้ากับสไตล์บ้านแล้ว อันดับต่อมาคือการเลือกสีของรางน้ำฝน อย่างไรก็ตาม วัสดุรางน้ำฝนในตลาดอย่างอลูมิเนียม สแตนเลส สังกะสี หรือเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ ล้วนเป็นรางน้ำที่ไม่เหมาะกับการทาสีทับ เนื่องจากเป็นการแทนที่สารเคลือบอย่างโครเมียม ที่มีไว้เพื่อป้องกันสนิม ซึ่งอาจก่อให้เกิดสนิมบนรางน้ำฝนได้ในอนาคต หรือในอีกกรณีหนึ่ง คือ เมื่อทาสีทับไปแล้ว ผิววัสดุที่ลื่นอาจทำให้สีที่ทาไปหลุดลอกได้ง่าย ทำให้ต้องทาสีใหม่บ่อยๆ
เลือกสีรางน้ำฝน ต้องรางน้ำฝนไวนิล (uPVC)
เจ้าของบ้านท่านใดที่อยากให้สีรางน้ำฝนเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลังคาและตัวบ้าน VG ขอแนะนำให้เลือกใช้รางน้ำฝนไวนิล หรือ uPVC ทำมาจากพลาสติกแข็งชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเด่นหลายด้าน คือ แข็งแรง เนื้อเหนียวและยืดหยุ่นต่อแรงกระแทก ไม่ผิดรูปเมื่อเจอฝนตกหนัก อีกทั้งเป็นวัสดุที่ไม่เกิดสนิม ประกอบกับน้ำหนักที่เบา จึงติดตั้งได้ง่าย ที่สำคัญคือ สามารถผสมสีกับเนื้อวัสดุในกระบวนการผลิต จึงทำออกมาได้หลากหลายสีสัน สีไม่ซีดหรือจางง่าย ช่วยให้บ้านดูดีได้ตามต้องการ
นอกจากนี้ รางน้ำฝนไวนิลยังมีราคาที่เข้าถึงง่าย ผลิตแบบสำเร็จรูป สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป จึงเป็นเหตุผลที่รางน้ำฝนชนิดนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มบ้านสมัยใหม่อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม รางน้ำฝนไวนิลทั่วไปอาจเสี่ยงต่อการกรอบแตกเนื่องจากโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานานๆ และมักมีอายุการใช้งานเพียง 5 - 10 ปีเท่านั้น
ดังนั้น เพื่อรางน้ำฝนที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ช่วยให้บ้านสวยสดงดงามยาวนาน ขอแนะนำให้ลองหันมาใช้ รางน้ำฝนไวนิล VG ผลิตจาก iR-uPVC นวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ วีจี
รางน้ำฝนไวนิลจาก VG
รางน้ำฝนไวนิล iR-uPVC เป็นรางน้ำฝนไวนิลที่ VG คิดค้นขึ้น เพื่อยกระดับไวนิลให้เหนือกว่าไวนิลทั่วไป ด้วยนวัตกรรม ลิขสิทธิ์เฉพาะของวีจี ทำให้ได้เนื้อพลาสติกไวนิลที่มีคุณสมบัติพิเศษ ประกอบกับการใช้ส่วนผสมทางเคมีภัณฑ์ที่มีคุณภาพชั้นนำระดับโลก ซึ่งวีจีใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ได้รางน้ำฝนมีคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน ทั้งความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่แตกหักง่าย ไม่เกิดสนิม ที่สำคัญ คือ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 15 ปี พร้อมด้วยคุณสมบัติการปกป้องวัสดุที่ให้มากกว่าถึง 2 ชั้น คือ
- ชั้นที่ 1 การปกป้องภายนอก (Outer Layer) - ด้วยการเคลือบพิเศษด้วยสี Dupont สีจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก มีคุณสมบัติ Infrared Reflective ที่สามารถสะท้อนรังสี UV จากแสงแดดได้มากถึง 3 เท่า จึงทำให้วัสดุไม่กรอบแตก พร้อมลดปัญหาอากาศร้อนบริเวณใต้ชายคา และช่วยลดความร้อนให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย
- ชั้นที่ 2 การปกป้องภายใน (Inner Layer) - ด้วยคุณสมบัติที่เน้นความแข็งแรงทางโครงสร้าง ความทนทานและมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อกระทบกับน้ำและสภาพอากาศต่างๆ อยู่ตลอดเวลา จึงไม่เกิดการผุกร่อนหรือแตกหัก ช่วยให้คงสภาพรางน้ำได้ตลอดการใช้งาน สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
มั่นใจมากกว่าเดิม เพราะรางน้ำฝนไวนิลของเราผ่านการทดสอบ Weather Testing จากประเทศเยอรมนี และยังตอบโจทย์เรื่องดีไซน์เพราะรางน้ำฝนไวนิล VG มีให้เลือกถึง 4 รุ่น 4 สไตล์ คือ
- รุ่น EZY เหมาะกับบ้านสไตล์ Semi-modern
- รุ่น PRIMO เหมาะกับบ้านสไตล์ Modern
- รุ่น FIRST R2 เหมาะกับบ้านสไตล์ Classic
- รุ่น COSMO XL 350 รางน้ำฝนไวนิลไซส์ใหญ่ เหมาะสำหรับโรงงาน
อีกทั้งยังเป็นรางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูปที่ติดตั้งง่าย ใช้เวลาไม่นาน หรือจะติดตั้งเองก็สามารถทำได้
หากสนใจรางน้ำฝนไวนิล VG สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
สามารถสอบถามราคารางน้ำฝน และปรึกษา VG ผ่านช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
โทร.: 087-654-7788, 063-271-7711 (ENG)
อีเมล: info@mycnpgroup.com
LINA OA: @vg-cnp
Facebook: VG รางน้ำและหลังคาไวนิล