ในการที่จะติดตั้งรางน้ำฝนให้กับตัวบ้าน เชื่อว่าเจ้าของบ้านต้องมีคำถามคาใจจำนวนมากอย่างแน่นอน แม้จะเลือกได้แล้วว่าอยากจะติดตั้งรางน้ำฝนแบบไหน แต่ก็มักมีข้อสงสัยตามมาอีกเพียบ สำหรับท่านใดที่สนใจในรางน้ำ VG รางน้ำสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เราพร้อมมาตอบข้อสงสัยต่างๆ ที่มีเกี่ยวกับรางน้ำฝน ซึ่งได้รวบรวมเอาไว้ให้อย่างครบถ้วนในบทความนี้แล้ว
รางน้ำฝน VG มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง?
รางน้ำฝนไวนิลของเรานั้นไม่ได้เป็น PVC แต่เป็น uPVC คุณภาพสูง หรือ Unplastizide Polyvinyl Chorlde ที่แม้จะมีลักษณะภายนอกคล้าย PVC ทั่วไป แต่มีโครงสร้างแตกต่างกันจากการวิจัยและพัฒนามาหลายสิบปีนั่นเอง ที่สำคัญคือ uPVC มีส่วนผสมของสาร UV Stabilizer ช่วยต้านแสงยูวีและความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่า แต่แค่นี้ยังไม่พอ VG ได้ยกระดับรางน้ำฝนไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมเฉพาะอย่าง iR-uPVC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเราเท่านั้น
นวัตกรรมรางน้ำฝน iR-uPVC (Infrared Reflective Unplasticized Polyvinly Chloride) คือวัสดุที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ VG ที่เราได้มุ่งมั่นพัฒนามานานกว่า 15 ปี โดยสาร Infrared Reflective นั้นสามารถ “สะท้อน” แสงและความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนทานต่อสภาพอากาศได้ในระดับที่สูงกว่า นอกจากนี้ ยังมีการเสริมความแข็งแรงด้วยวัสดุคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับประเทศ มีผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมการผลิตในทุกขั้นตอน ยกระดับการป้องกันทั้งชั้นนอกและชั้นใน คือ
- Outer Layer - ผิวด้านนอกมีความมันเงา สูตรเฉพาะของ VG เคลือบถึง 2 ชั้น (Double Layer) ด้วยสีพิเศษ Dupont ซึ่งเป็นสีแบรนด์ดังระดับโลก ทำให้พื้นผิวเรียบเนียนสวยงาม มีคุณสมบัติ Infrared Reflective สามารถสะท้อนรังสียูวีจากแสงแดดได้มากกว่าถึง 3 เท่า เป็นฝ้าหลังคาไปในตัว ช่วยลดปัญหาอากาศร้อนบริเวณใต้ชายคาได้อีกด้วย
- Inner Layer - โครงสร้างชั้นในถูกขึ้นแบบออกมาให้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้คงสภาพรางน้ำได้ตลอดการใช้งาน ไม่แตกหักง่ายเหมือนกับไวนิลทั่วไป
รางน้ำ iR-uPVC ผ่านการทดสอบ Weather Testing จากประเทศเยอรมัน มั่นใจได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาพอากาศอย่างแท้จริงเลยทีเดียว แต่นี่เป็นเพียงส่วนของคุณสมบัติรางน้ำเท่านั้น ซึ่งยังมีอุปกรณ์เสริมอีกมากมายที่มาพร้อมกับรางน้ำ
อุปกรณ์เสริมรางน้ำ VG มีกี่อย่าง? ปรับแต่งได้มากน้อยแค่ไหน?
ความสวยงามของตัวบ้านเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านทุกคนให้ความสำคัญ เพราะจะติดรางน้ำทั้งที ใครๆ ก็อยากได้รางน้ำที่สวย เข้ากับดีไซน์ของบ้านได้อย่างลงตัว และในขณะเดียวกันก็ต้องมีประสิทธิภาพดี ซึ่ง VG นั้นมีส่วนเสริมและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบครัน เพื่อให้การติดตั้งรางน้ำออกมาได้สวยงามที่สุด
- ตะขอแขวนราง / ตะขอรับราง - มีการออกแบบให้กลืนไปกับชายคา ไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาที่ทำให้ดูยุ่งเหยิงหรือทำให้รำคาญใจ
- ชุดปรับองศา (Adjuster Set) - บ้านหลังไหนที่ต้องการติดตั้งรางน้ำผ่านมุมหลังคา ชุดปรับองศานั้นสามารถช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นมุมออกด้านนอกหรือมุมเข้าด้านใน ก็สามารถปรับแต่งได้
- ฝาปิดปลายราง - ป้องกันไม่ให้น้ำส่วนเกินไหลหรือล้นออกจากรางน้ำและตกกระทบสู่พื้นด้านล่าง
- ส่วนท่อ - ประกอบไปด้วยตัวต่อน้ำลง ตัวล็อกท่อ และข้องอ สำหรับปล่อยน้ำไหลลงสู่ท่ออย่างเรียบร้อย ไม่กระเซ็นไปโดนกำแพงหรือส่วนอื่นๆ ของบ้าน
- ตะแกรง - เพิ่มเกราะป้องกันรางน้ำด้วยตะแกรงปิดส่วนบน ดีไซน์สุดพิเศษแบบสโลปลาดเอียง ป้องกันนกมาทำรัง ใบไม้ร่วง ลดปัญหาสิ่งสกปรกอุดตันการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นบ้านรูปแบบไหน ก็สามารถติดตั้งรางน้ำ VG ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ดูสวยงามในทุกมุม ส่งเสริมดีไซน์ของบ้านได้ทุกสไตล์อย่างลงตัว
รางน้ำไวนิล VG ราคาเท่าไหร่? มีกี่รุ่นให้เลือก?
รางน้ำไวนิล VG ราคา 650 - 850 บาทต่อ 1 เมตร ขึ้นอยู่กับจำนวนอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้ในการติดตั้งและรุ่นของรางน้ำ ซึ่งเรามีรางน้ำให้เลือกถึง 3 แบบ 3 สไตล์ ได้แก่
1. รางน้ำฝนรุ่น FRIST R2
รางน้ำฝนดีไซน์สุดคลาสสิกจาก VG สามารถเข้ากันได้ดีกับบ้านหลากหลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มมิติให้บ้านน่ามองยิ่งขึ้น มาพร้อมระบบตะขอรองรับรางและแขวนราง ติดตั้งได้สะดวกและรวดเร็ว
2. รางน้ำฝนรุ่น PRIMO
รางน้ำฝนที่มีดีไซน์อันเรียบง่าย โมเดิร์น ให้ความรู้สึกเรียบหรู สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอลก็เข้ากันได้ดี พร้อมมีระบบซ่อนตะขอแนบเนียนในทุกมุมมอง
3. รางน้ำฝนรุ่น EZY
รางน้ำฝนที่ออกแบบมาให้มีความมินิมอล เรียบง่าย จึงเข้ากับหลังคาบ้านได้อย่างลงตัว บ้านสไตล์ไหนก็เข้ากันได้ อีกทั้งยังเสริมความสวยงามอีกด้วย มาคู่กับตะขอรับรางที่แข็งแรง ฝนตกหนักแค่ไหนก็เอาอยู่
ปัจจุบัน VG มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,500 สาขาทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านวัสดุก่อสร้างไปจนถึงโมเดิร์นเทรดชั้นนำต่างๆ สามารถหาซื้อได้ง่ายๆ หรือหากสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ ทีมงาน VG ก็พร้อมให้คำแนะนำในการเลือกรางน้ำฝนที่ใช่ที่สุด อีกทั้งยังมีบริการตรวจสอบหน้างานและคำนวณราคาสินค้าก่อนติดตั้งจริงอีกด้วย
ติดตั้งรางน้ำไวนิล VG ด้วยตัวเองยังไง?
สำหรับเจ้าของบ้านท่านใดที่อยากลองติดตั้งรางน้ำด้วยตัวเอง VG ก็มีคู่มือติดตั้งพื้นฐาน ฉบับเข้าใจง่ายพร้อมให้อ่านผ่านเว็บไซต์ โดยมีรายละเอียดที่ควรทำความเข้าใจดังนี้
- รูปแบบเชิงชาย - ถ้าเป็นเชิงชายตรงไม่จำเป็นต้องใช้ชุดปรับองศา หากเชิงชายยื่นออกมาหรือมีองศาที่ไม่เรียบตรง ควรใช้ชุดปรับองศา
- ระยะห่างระหว่างแผ่นหลังคาและเชิงชาย - ควรอยู่ที่ 10 เซนติเมตร
- ระยะห่างระหว่างตะขอเกี่ยว - ควรเว้นไว้ทุกๆ 50 - 55 เซนติเมตร และไม่ควรเกิน 60 เซนติเมตร ควรติดตะขอให้ห่างจากรอยต่อขอรางประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
- จุดน้ำลง - สามารถคำนวณจากพื้นที่ของหลังคา ซึ่งควรมีน้ำลงอย่างน้อย 1 จุดต่อพื้นที่ 50 ตารางเมตร หรือก็คือมีจุดน้ำลง 1 จุดต่อหลังคา 1 ฝั่ง และจุดน้ำลงควรอยู่บริเวณมุมในของหลังคาบ้าน หรือวางใกล้กับตำแหน่งของสันตะเข้มากที่สุด
- การซีลขอบรางน้ำ - ควรใช้ซิลิโคนสำหรับรางน้ำโดยเฉพาะ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงกว่าซิลิโคนชนิดอื่นๆ ประกอบกับใช้กาวแรงดันสำหรับท่อ และใช้กาวร้อนสำหรับชุดปรับองศา ที่สำคัญคือไม่ควรใช้สกรูเพื่อยึดท่อ เพราะอาจเกิดสนิมได้นั่นเอง
- ความยาวของท่อน้ำลง - ให้คำนวณจากความสูงของบ้านและบวกเพิ่ม 1 - 1.5 เมตร เพื่อเป็นการเผื่อระยะห่างในกรณีหลังคาเฉียงเข้ากับตัวบ้าน
สามารถอ่านคู่มือการติดตั้งอย่างละเอียดได้ที่ vg-cnp.com/gutter/?tab=installation หรือถ้าเจ้าของบ้านท่านใดไม่สะดวก ทาง VG ก็มีบริการติดตั้งรางน้ำด้วยเช่นกัน
หวังว่าทั้งหมดที่ได้กล่าวไปในบทความนี้ จะสามารถไขข้อสงสัยของเจ้าของบ้านมือใหม่ได้แล้ว แต่หากมีคำถาม ข้อกังวล หรือยังเลือกรางน้ำฝนไม่ถูก สามารถปรึกษา VG ได้ตามช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
โทร.: 087-654-7788, 080-744-7799, 063-271-7711 (ENG)
อีเมล: info@mycnpgroup.com
LINA OA: @vg-cnpFacebook: VG รางน้ำและหลังคาไวนิล