บ้านจัดสรร บ้านเดียว อาคารพาณิชย์ หรือแม้แต่โรงงาน ล้วนต้องต่อเติมรางน้ำฝนเพื่อให้น้ำฝนสามารถระบายลงจากหลังคาได้รวดเร็ว เป็นทิศทางเดียวกัน และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับผนังบ้านหรือการกัดเซาะหน้าดิน รวมไปถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านในระยะยาว โดยในการเลือกบริการติดตั้งรางน้ำฝน ควรเลือกบริษัทหรือช่างผู้มีความเชี่ยวชาญ และน่าเชื่อถือ เพื่อให้แน่ให้ว่าผลงานการติดตั้งจะออกมาได้คุณภาพ และเป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้
ทั้งนี้ มีปัจจัยอะไรบ้างที่สำคัญต่อการเลือกผู้ให้บริการติดตั้งน้ำฝน? ต้องเลือกจากอะไรถึงจะได้บริการที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ? ในวันนี้ VG จะมาแนะนำผู้ที่กำลังวางแผนติดตั้งรางน้ำฝนให้ทราบกัน
5 ปัจจัยควรพิจารณาก่อนเลือกบริการติดตั้งรางน้ำฝน
1. ชื่อเสียงและผลงานโครงการที่ผ่านมา
อันดับแรก ให้ลองศึกษาบริษัทหรือผู้รับเหมาติดตั้งรางน้ำฝนนั้นๆ ว่ามีประวัติผลงานที่ผ่านมาอย่างไร มีชื่อเสียงหรือถูกบอกต่อในด้านไหน ไม่ว่าจะเป็นในรีวิวที่ลูกค้าโพสต์ลงสื่อโซเชียลหรือภาพผลงานบนเว็บไซต์ของแบรนด์ เพราะผลงานที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าบริษัทมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีทีมช่างที่มีประสบการณ์หรือไม่ มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งด้านไหนเป็นพิเศษ ก็จะช่วยให้เจ้าของบ้านตัดตัวเลือกออกไปได้ และตัดสินใจง่ายขึ้น
2. การประเมินราคาก่อนเริ่มงาน
ให้สอบถามกับทางทีมช่างว่ามีการประเมินราคาหรือสำรวจพื้นก่อนเริ่มงานหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่ารางน้ำฝนที่ต้องการติดตั้งนั้นมีขนาดเหมาะสมกับความยาวของหลังคา ไม่เกิดปัญหาน้ำล้นรางในภายหลัง นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันไม่ให้งบประมาณบานปลายหรือเกิดค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเข้ามา
3. การรับประกันระหว่างการติดตั้ง
บริษัทผู้ติดตั้งรางน้ำฝนที่ดีนั้นสามารถรับประกันการดำเนินการหน้างานได้ เช่น การรับประกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนรางน้ำหรือทรัพย์สินขณะทำการติดตั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักประกันว่า ทีมช่างจะดำเนินงานด้วยความระมัดระวัง ผลงานออกมามีคุณภาพ และสำเร็จงานตามเวลากำหนด
4. มีบริการหลังการขาย
หลังเสร็จการติดตั้งหรือต่อเติมรางน้ำฝน ผู้ให้บริการติดตั้งรางน้ำฝนที่ดีนั้นควรมีช่างติดตามและประเมินผล รวมไปถึงให้คำแนะนำให้การดูแลรักษารางน้ำฝนด้วย เจ้าของบ้านจึงสามารถวางใจในงานติดตั้ง หรือในกรณีที่เกิดปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
5. เลือกใช้วัสดุรางน้ำฝนที่มีคุณภาพ
ปัจจุบัน รางน้ำฝนมีหลายประเภทให้เลือกและทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสังกะสี สแตนเลส ไฟเบอร์กลาส ไปจนถึงรางน้ำฝนไวนิลที่ได้รับความนิยมในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุใดก็ตาม ควรสอบถามว่ารางน้ำฝนที่ทีมช่างใช้นั้นมีคุณภาพดีแค่ไหน มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง จากนั้นให้ลองศึกษาจากแบรนด์ต่างๆ ในตลาดว่าแบรนด์ใดที่ผลิตรางน้ำได้คุณภาพ และมีราคารางน้ำฝนที่อยู่ในงบประมาณ
ทั้ง 5 ข้อที่กล่าวไปนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของบ้านทุกท่านควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจใช้บริการติดตั้งรางน้ำฝน ซึ่งเมื่อเลือกอย่างรอบคอบ ก็จะได้พบกับบริษัทที่ได้มาตรฐาน มีทีมช่างคุณภาพ พร้อมกับบริการอื่นๆ ร่วมด้วย
เลือกรางน้ำฝนไวนิลคุณภาพ เลือกรางน้ำฝนไวนิล iR-uPVC จาก VG
รางน้ำฝนไวนิลจาก VG มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด ด้วย iR-uPVC ย่อมาจาก Infrared Relfective Unplasticized Chloride คือ วัสดุไวนิลเอกลักษณ์ของบริษัท ที่มีส่วนผสมของสารเคลือบสะท้อนรังสีอินฟราเรด จึงช่วยลดการสะสมความร้อนของวัสดุในวันที่แดดจัด สะท้อนแสงยูวีมากถึง 3 เท่า ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะของ VG และผ่านการผลิตจากเครื่องจักรทันสมัยนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน มาพร้อมการออกแบบ Double Layer ผิวหน้า 2 ชั้น ซึ่งประกอบไปด้วย
1. ชั้นใน (Inner Layer)
VG ผลิตรางน้ำฝนไวนิลโดยให้ความสำคัญกับโครงสร้าง จึงมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เกิดการผุกร่อนหรือแตกหักง่ายแม้เจอกับน้ำฝนและแสงแดดจัดตลอดเวลา ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่ารางน้ำฝน PVC ทั่วไป
2. ชั้นนอก (Outer Layer)
ภายนอกเคลือบด้วยสีแบรนด์ Dupont สีชั้นนำระดับโลกมากถึง 2 ชั้น มีคุณสมบัติ Infrared Reflective ช่วยลดความร้อนสะสม ลดปัญหาความร้อนบริเวณใต้ชายคาและภายในตัวบ้าน นอกจากนี้ยังให้สีรางน้ำฝนที่สวยงาม สามารถตกแต่งให้เข้ากับสไตล์บ้านได้หลากหลาย
โดยรางน้ำฝนไวนิลของ VG มีให้เลือก 4 รุ่น 4 สไตล์ คือ
- EZY - รางน้ำฝนไวนิลดีไซน์มินิมอล เรียบง่าย ติดตั้งแนบเนียนเข้ากับตัวบ้านทุกสไตล์
มีราคาเริ่มต้นที่ 170 บาทต่อเมตร ราคาปลีก 520 บาท (3 เมตร) มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ ขาว น้ำตาล และฟ้า
- PRIMO - รางน้ำฝนไวนิลโมเดิร์น มีความเรียบหรู สวยแนบเนียนด้วยระบบซ่อนตะขอ มีราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อเมตร ราคาปลีก 620 บาท (3 เมตร) มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ ขาว น้ำตาล และเทา
- FIRST R2 - รางน้ำฝนไวนิลที่มีการออกแบบสุดคลาสสิก เสริมหลังคาบ้านให้มีมิติน่าสนใจมากขึ้น มีราคาเริ่มต้นที่ 180 บาทต่อเมตร ราคาปลีก 720 บาท (3 เมตร) มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ ครีม น้ำตาล และเทา
- COSMO XL - รางน้ำฝนไวนิลขนาดใหญ่ ไซส์โรงงาน ดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์โรงงานและอาคารขนาดใหญ่
โซ่ไวนิลระบายน้ำฝน จาก VG
เมื่อติดตั้งรางน้ำฝนไวนิลแล้ว เจ้าของบ้านสามารถพิจารณาติดตั้งโซ่ระบายน้ำฝนเพิ่มเติม เพื่อช่วยระบายน้ำฝนออกจากตัวรางได้อย่างรวดเร็ว และไม่กระเซ็นไปยังบริเวณอื่น ๆ ของตัวบ้าน โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ
1. โซ่ไวนิลระบายน้ำรุ่น ฟลอรอล
โซ่ระบายน้ำดีไซน์คล้ายดอกไม้ ช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวบ้านได้อย่างง่ายๆ มีให้เลือกมากถึง 5 สี
2. โซ่ไวนิลระบายน้ำรุ่น เจมส์
โซ่ระบายน้ำดีไซน์คล้ายอัญมณีแกะสลัก สวยงาม ดูหรูหรา มีให้เลือกมากถึง 5 สี
สามารถสอบถามราคารางน้ำฝนไวนิล และปรึกษา VG สำหรับบริการติดตั้งรางน้ำฝนผ่านช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
โทร.: 087-654-7788
อีเมล: info@mycnpgroup.com
LINA OA: @vg-cnp
Facebook: VG รางน้ำและหลังคาไวนิล