รางน้ำฝนไวนิล กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในปัจจุบันนี้ เพราะเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่น ไม่เกิดสนิมเมื่อโดนน้ำฝน ทนแดด มีน้ำหนักเบา และหาซื้อได้สะดวก อีกทั้งยังมาพร้อมสีสันต่างๆ ที่เจ้าของบ้านสามารถเลือกให้เข้ากับดีไซน์ของบ้านได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรางน้ำไวนิลไม่ได้ผลิตมาจากวัสดุที่เป็น “โลหะ” จึงเกิดความกังวลไม่น้อย ว่าราคารางน้ำฝนไวนิลที่ลงทุนไป จะคุ้มค่ากับข้อดีที่ได้มาหรือเปล่า ดังนั้นในบทความนี้ VG จะพามาหาคำตอบและไขข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับรางน้ำไวนิลหรือ PVC พร้อมแนะนำรางน้ำที่กล่าวได้ว่าคุ้มค่าสุดๆ แน่นอน
รางน้ำ PVC เป็นแบบไหน มีคุณสมบัติอะไร?
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักรางน้ำ PVC มาทำความรู้จักเพิ่มเติมกันเลย โดย PVC นั้นย่อมาจาก “Plastic Vinyl Chloride” เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถแปรเปลี่ยนคุณสมบัติได้ โดยการเติมสารเคมีปรุงแต่ง (Additives) อย่างพลาสติไซเซอร์ (Plasticizer) ที่มักเติมลงไป ส่งผลให้พลาสติกมีความยืดหยุ่นและอ่อนนุ่มขึ้น สะดวกต่อการดึง รีด ฉาบ หรือหล่อแบบออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างรางน้ำฝนที่หลายคนใช้กันในทุกวันนี้นั่นเอง
คุณสมบัติของวัสดุ PVC นั้นมีหลากหลาย ยกตัวอย่าง เช่น
- ความแข็งแรงเชิงกลสูง
- มีความต้านทานแรงดึงสูง
- เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีมีความต้านทานต่อสารเคมีสูง
- เป็นวัสดุที่ไม่ลามไฟ
- การดูดซึมน้ำต่ำ
- ง่ายต่อการเคลือบเงาและติดกาว
- ง่ายต่อการเชื่อมหรือยึดติดกับวัสดุอื่น
จากคุณสมบัติข้างต้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมรางน้ำฝนที่ทำจาก PVC นั้นเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างล้นหลาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายๆ คนยังมีความกังวลเกี่ยวกับวัสดุชนิดนี้อยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ หากถามว่า รางน้ำ PVC แพงไหม ก็ตอบได้เลยว่าไม่แพงและยังถูกกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ อีกด้วย
ทำไมหลายคนจึงมีความกังวลเกี่ยวกับ PVC
พอทราบถึงคุณสมบัติที่ดีของ PVC ไปแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องมีข้อเสียที่อาจทำให้เจ้าของบ้านหลายๆ คนหลีกเลี่ยงรางน้ำ PVC เช่น
- ทนแรงกระแทกได้ต่ำ แตกหักง่าย หากติดตั้งไม่ดีหรือว่าติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงโดยแรงกระแทก เช่น หากเจอกับพายุฝนหนัก รางน้ำ PVC ก็อาจเสียหายได้
- ไม่ทนแดดและแสง UV เพราะตัวท่ออาจผุกร่อนหรือ “กรอบ” ก่อนเวลาอันควร รวมถึงสีอาจซีดหรือจางหายไปเร็วกว่าอายุการใช้งานจริงเมื่อต้องเจอแดดจัด
ด้วยเหตุดังกล่าว ประกอบกับสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนชื้น มีแดดจัด และพายุฝนตลอดทั้งปี ทำให้บ้านที่ติดตั้งรางน้ำ PVC นั้นอาจต้องเปลี่ยนหรือซ่อมบำรุงรางน้ำอยู่บ่อยๆ นั่นเอง
ราคารางน้ำฝน PVC อยู่ที่เท่าไหร่?
เชื่อว่าผู้ที่กำลังมองหาบ้านใหม่หรือกำลังปลูกบ้านในฝันของตัวเอง คงสงสัยเรื่องของราคารางน้ำฝนกันอยู่เป็นแน่ อันดับแรกต้องบอกก่อนว่า ผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายจะคำนวณราคารางน้ำต่อเมตร และราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย แม้จะเป็นรางน้ำที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันก็ตาม ดังนั้นราคารางน้ำฝนในตลาดจึงไม่ตายตัว
ทั้งนี้ราคารางน้ำฝนไวนิลโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ราวๆ 600 - 900 บาทต่อเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับรางน้ำสแตนเลสเกรด 304 ที่มีราคาประมาณ 550 - 750 บาท รางน้ำไวนิลอาจมีราคาที่สูงกว่า แต่ก็แลกมากับคุณสมบัติที่ไม่เกิดสนิม ติดตั้งง่าย และมีสีให้เลือกมากกว่า
เมื่อเทียบกับอายุการใช้งาน รางน้ำ PVC ทั่วไปนั้นสามารถมีอายุการใช้งานได้ตั้งแต่ 5 - 10 ปี ส่วนสแตนเลสนั้นมีอายุการใช้งานราวๆ 10 หรือมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ และการดูแลรักษาด้วยนั่นเอง
พอรู้แบบนี้ หันมาใช้รางน้ำ uPVC ดีกว่าไหม?
รางน้ำ PVC ทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์ใครหลายคน ฉะนั้นหันมาใช้งานรางน้ำไวนิล uPVC จะดีกว่าไหม? เพราะ uPVC หรือ Unplasticized Polyvinyl Chloride นั้นไม่ได้มีการผสมสารพลาสติไซเซอร์แต่อย่างใด ส่งผลให้มีความแข็งแรงและคงรูปได้ดีกว่า PVC ทั่วไป หมดปัญหาเรื่องการผุกรอกหรือแตกหัก มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
นอกจากนี้ ผู้ผลิตบางรายอาจผลิต uPVC จากปิโตรเคมี และมีส่วนผสมของสารเคลือบ เช่น UV Stabilizer หรือสารอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อม แสงแดด และความร้อน พร้อมช่วยให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังมีข้อดีต่างๆ ของ PVC อย่างครบครัน ที่สำคัญคือมีราคาเทียบเท่ากับรางน้ำ PVC ทั่วไป
สรุปได้ว่าราคารางน้ำฝนไวนิลนั้นคุ้มค่า เมื่อเจ้าของบ้านเลือกใช้รางน้ำจากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีรางน้ำไวนิลคุณภาพ ได้มาตรฐาน อย่างรางน้ำฝนไวนิลจาก VG
ทำความรู้จักรางน้ำฝนไวนิลจาก VG ที่คุ้มค่าทุกเมตร
รางน้ำฝน VG คือ รางน้ำไวนิลที่พิเศษไม่เหมือนใคร เพราะผลิตจากนวัตกรรม iR-uPVC พลาสติกคุณสมบัติพิเศษ จากการใช้ส่วนผสมเคมีภัณฑ์คุณภาพชั้นนำระดับโลก ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ VG และผ่านการผลิตโดยเครื่องจักรที่ทันสมัย ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกด้าน ทั้งความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่แตกหักง่าย ไม่เกิดสนิม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 15 ปี พร้อมด้วยคุณสมบัติการปกป้องวัสดุที่ให้มากกว่าถึง 2 ชั้น
- ชั้นที่ 1 การปกป้องภายนอก (Outer Layer) ด้วยการเคลือบพิเศษด้วยสี Dupont สีจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก มีคุณสมบัติ Infrared Reflective ที่สามารถสะท้อนรังสี UV จากแสงแดดได้มากถึง 3 เท่า จึงไม่ทำให้เกิดสนิม ทั้งยังลดปัญหาอากาศร้อนบริเวณใต้ชายคาและช่วยลดความร้อนให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย
- ชั้นที่ 2 การปกป้องภายใน (Inner Layer) ด้วยคุณสมบัติที่เน้นความแข็งแรงทางโครงสร้าง ความทนทานและมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อกระทบกับน้ำและสภาพอากาศต่างๆ อยู่ตลอดเวลา จึงไม่เกิดการผุกร่อนหรือแตกหักได้ง่าย ช่วยให้คงสภาพรางน้ำได้ตลอดการใช้งาน สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
มั่นใจมากกว่าเดิมด้วยการผ่านการทดสอบ Weather Testing จากประเทศเยอรมัน และยังตอบโจทย์เรื่องดีไซน์เพราะรางน้ำ VG มีให้เลือกถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ คือ รุ่น PRIMO รุ่น FIRST R2 และรุ่น EZY หากสนใจรางน้ำ VG สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
สามารถสอบถามราคารางน้ำฝน และปรึกษา VG ผ่านช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
โทร.: 087-654-7788, 080-744-7799, 063-271-7711 (ENG)
อีเมล: info@mycnpgroup.com
LINA OA: @vg-cnpFacebook: VG รางน้ำและหลังคาไวนิล