ประเทศไทย มีอากาศแบบร้อนชื้น มีฝนตกเฉลี่ยปีหนึ่งประมาณ 4-5 เดือน หรือทางใต้นี่ตกตลอดเกือบทั้งปี รางน้ำฝนจึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างมาก ที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย รางน้ำฝน จริงๆ แล้ว! สำคัญสุดเลย คือ ช่วยไม่ให้บ้านทรุด เพราะหากบ้านทรุดขึ้นมา จะเป็นปัญหาที่แก้ไม่รู้จบเลยค่ะ และรางน้ำฝนช่วย ป้องกันผนังเป็นเชื้อรา ที่เกิดจากการกระเซ็นของน้ำฝน ลดปัญหาน้ำซึมเข้าสู่หลังคา และตามซอกประตูหรือหน้าต่างอีกด้วย หากเราติดตั้งรางน้ำฝนให้กับบ้าน ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงบ้านไปได้เยอะมากเลยค่ะ
วันนี้เราจะแชร์ความรู้ ที่ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ ทั้งเรื่องงบประมาณ ความแข็งแรง คงทน รวมไปถึงความสวยงามที่ลงตัวกับบ้าน ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเล้ยยย…
แล้วรางน้ำฝนส่วนใหญ่มีวัสดุอยู่กี่ประเภท?
1. สังกะสี
ประเภทถูกใจสายประหยัด เพราะมีราคาถูก เริ่มต้นที่ 200-400.-/ม. หาซื้อง่าย ติดตั้งง่าย ไม่ใช้ช่างเฉพาะทาง เน้นใช้งานไม่เน้นสวยงาม ข้อเสีย คือ ข้อเสียของสังกะสี คือ ไม่ค่อยทน ผุพัง สนิมขึ้นง่าย สีลอกล่อน มีอายุการใช้งานสั้นกว่าวัสดุอื่นๆ ไม่สามารถใช้กับพื้นที่ใกล้ทะเล เนื่องจากไอน้ำทะเลจะทำให้รางน้ำฝนที่เป็นสังกะสีขึ้นสนิม
2. เหล็กเคลือบ / เหล็กชุบสี
เป็นเหล็กผ่านกรรมวิธีกันสนิมและชุบสีให้สวยงาม สามารถรีดเป็นเส้นยาวได้ ไม่มีรอยต่อ แข็งแรง ทนทาน มีหลายสี ราคาอยู่ที่ 800-1,500.-/ม. มีแบบสำเร็จรูป สำหรับประกอบหน้างาน ข้อเสีย คือ ราคาสูง ถึงแม้จะเป็นเหล็กชุบสี ก็สามารถเกิดสนิมและสีหลุดล่อนได้ และไม่สามารถใช้กับพื้นที่ใกล้ทะเล เนื่องจากไอน้ำทะเลจะทำให้รางน้ำฝนขึ้นสนิม
3. สแตนเลส
แข็งแรงที่สุดในบรรดาวัสดุโลหะ แต่ต้องเป็นสแตนเลสเกรด 304 เพราะถ้าเป็นสแตนเลสเกรดต่ำ ก็ผุกร่อนง่ายอยู่ดี เลือกติดตั้งสแตนเลส ต้องวัดใจกันหน่อย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าสแตนเลสแบบไหน คือ เกรด 304 เพราะฉะนั้นการเลือกติดตั้งรางน้ำสแตนเลสจะต้องดูให้ดีๆ เรื่องความแข็งแรง สแตนเลสแข็งแรง ทนทาน มีสีมันวาว ติดตั้งและเชื่อมรางด้วยอาร์กอน อายุการใช้งาน 15 ปีจริง แต่! ตัวตะขอไม่ใช่สแตนเลสจึงต้องมีการเปลี่ยนตะขอเมื่อสิ้นอายุการใช้งาน ราคารางน้ำฝนสแตนเลสค่อนข้างแพงอยู่ที่ 900-1,500.-/ม. ถ้าถูกกว่านี้อาจจะเป็นสแตนเลสเกรดต่ำแล้วค่ะ ข้อเสีย คือ ราคาสูง มีน้ำรั่วตามรอยต่อ เกิดสนิมได้ เนื่องจากเป็นเหล็กจะทำปฎิกิริยากับสารเคมี ถ้าสแตนเลสเกรดต่ำ ไม่สามารถใช้กับพื้นที่ใกล้ทะเลได้ เนื่องจากจะเกิดสนิมง่ายขึ้น
4. ไฟเบอร์กลาส
ทำจากเส้นใยแก้วและพลาสติกโพลีเอสเตอร์เรซิ่น แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่เป็นสนิม
นิยมติดตั้งกับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมี เนื่องจากไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุที่ไม่ทำปฏิริยากับสารเคมี ราคาอยู่ที่ 800-2000.-/ม. ข้อเสีย คือ ราคาสูง ต้องใช้ช่างเฉพาะ ในการตัดและเชื่อมรางด้วยการผสานน้ำยาไฟเบอร์กับเส้นใยไฟเบอร์
5. ไวนิล
มีคุณสมบัติเด่นหลักๆ คือ ไม่เป็นสนิม แข็งแรง ทนทาน สวยเข้ากับบ้าน อายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 10 ปี ราคาจับต้องได้ ประมาณ 200-700.-/ม. (ราคาขึ้นอยู่กับเกรดของวัสดุและค่าแรงติดตั้ง) อย่างรางน้ำฝนไวนิลของวีจี ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย มีคุณสมบัติเฉพาะ ทน แกร่ง ไม่กรอบแตก ไม่เป็นสนิม ไม่ลามไฟ ติดตั้งง่าย สวย ดูดี เข้ากับบ้าน มีหลายสีให้เลือก และที่สำคัญราคาเริ่มต้นเพียง 173.-/ม. มีให้เลือกถึง 3 รุ่นเลยค่ะ
จัดอันดับเรื่องความสวยงามของรางน้ำฝน อันดับ 1 ไวนิล สวย ทันสมัย เข้ากับบ้าน อันดับ 2 เหล็กเคลือบ/เหล็กชุบสี มีหลายสีให้เลือก อันดับ 3 ไฟเบอร์กลาส มีหลายสีเหมือนกัน ส่วนสแตนเลส สังกะสี มันไม่สวยหรอก มันเป็นสีของมัน อย่างที่เราเห็น ถ้าหลังคาเราส๊วยสวย ติดรางน้ำสแตนเลส หรือสังกะสีมันก็ขัดๆ ตามที่เราเห็นนั่นแหละ!! เรื่องความสวยงามไวนิลกินขาดค่ะ
เรื่องความทนทาน ไฟเบอร์กลาส ไวนิล สแตนเลส รองลงมาเหล็กเคลือบ/เหล็กชุบสี และสังกะสีเป็นอันดับสุดท้าย
ไม่เป็นสนิม แน่นอน ไวนิล ไฟเบอร์กลาส กลุ่มเหล็กสามารถเป็นสนิมได้หมด เพราะทำปฎิกิริยากับสารเคมี ถ้าให้จัดอันดับก็จะเป็นสแตนเลส เหล็กเคลือบ/เหล็กชุบสี และสังกะสี
ไม่รั่วซึม ไวนิล ไฟเบอร์กลาส สแตนเลส แต่จริงๆ ต้องบอกก่อนว่ารางน้ำฝนทุกชนิด มีโอกาสรั่วซึมได้นะ หากการติดตั้งไม่ได้มาตราฐานตามที่กำหนด ถ้าเชื่อมต่อรอยต่อบางไปก็สามารถเกิดการรั่วซึมได้
ราคา สังกะสีถูกสุด ไวนิล เหล็กเคลือบ/เหล็กชุบสี ส่วนไฟเบอร์กลาสกับสแตนเลสแพง
การติดตั้ง ไวนิลง่ายสุด เพราะมีข้อต่อแบบสวม ประกอบ เชื่อมรอยด้วยซิลิโคน ตัดง่าย ต่อง่าย สังกะสีรองลงมา ที่ยากขึ้นมาหน่อยจะมีเหล็กเคลือบ/เหล็กชุบสี สแตนเลส ติดตั้งพวกนี้ต้องเชื่อม แต่ที่ยากที่สุด คือ ไฟเบอร์กลาส ต้องใช้ช่างเฉพาะทางในการติดตั้ง
อายุการใช้งาน ไฟเบอร์กลาส ไวนิล สแตนเลส ส่วนเหล็กเคลือบ/เหล็กชุบสี และสังกะสีมีอายุการใช้งานที่สั้น
ทุกวัสดุมีทั้งข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อดูจากองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว วัสดุที่เหมาะสมที่สุดและดีที่สุดสำหรับรางน้ำ คือ ไวนิล แถมไวนิลยังมีรูปแบบและสีสันให้เลือกเยอะ มั่นใจได้เลยว่า! สวยเข้ากับบ้านแน่นอนค่ะ
สนใจติดตั้งรางน้ำฝนไวนิล VG สุดยอดไอเทมดีๆ ช่วยปกป้องบ้านของคุณ พร้อมบริการติดตั้งและให้คำปรึกษาตลอดการใช้งาน โดยทีมช่างมืออาชีพ
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก
– shorturl.asia/jGs3u
– https://www.baanlaesuan.com/149695/maintenance/doors-windows/compare-ra in-gutter
– https://www.livingpop.com/rain-gutter/
– https://www.youtube.com/watch?v=ki3coFz_6yQ
– https://www.cm-coatingteam.com/content/2472/benefit-of-gutter
– shorturl.asia/mkG7c
– shorturl.asia/GTuIV
– shorturl.asia/fx8qv
– https://www.onestockhome.com/th/homemap_contents/37498020/5-type-
Of-gutter-in-thailand-market