การติดตั้งรางน้ำฝน เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนการสร้างบ้านที่ต้องใส่ใจ เพราะเมื่อพายุฝนตกหนัก เจ้ารางน้ำจะเข้ามาช่วยป้องกันบ้านจากปัญหาต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากน้ำฝน (อ่านต่อ 5 ประโยชน์ของรางน้ำฝน)
ในทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีรางน้ำหลากหลายประเภทจัดจำหน่ายในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นสแตนเลส เหล็กชุบสี ไฟเบอร์กลาส ฯลฯ และคงลืมตัวเลือกยอดนิยมอย่างรางน้ำ PVC ไปไม่ได้ เพราะรางน้ำชนิดนี้ เป็นวัสดุอันดับต้นๆ ที่เจ้าของบ้านทุกวันนี้นิยมใช้กัน
ดังนั้น VG จะพาทุกคนมาทำความรู้จัก 5 ข้อแตกต่างของรางน้ำ PVC รางน้ำไวนิล ที่ทำให้รางน้ำประเภทนี้เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
1. รางน้ำฝน PVC หรือไวนิลติดตั้งง่ายและรวดเร็วกว่า
รางน้ำฝน นับเป็นองค์ประกอบอันดับท้ายๆ ที่จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาในขั้นตอนการสร้างบ้าน ซึ่งตามเดิม หากเป็นรางน้ำเหล็กหรือโลหะ ต้องอาศัยช่างผู้มีความเชี่ยวชาญในการประเมินหน้างาน ก่อนที่จะนำรางเหล็กมาเชื่อมเข้าด้วยกันด้วยอุปกรณ์เฉพาะ และอาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
ในทางกลับกัน รางน้ำ PVC เป็นรางน้ำสำเร็จรูป สามารถติดตั้งรางน้ำเข้ากับตะขอได้ทันที อีกทั้งสามารถประกอบชิ้นส่วนอื่นๆ เข้าด้วยกันอย่างง่ายดาย สามารถลดเวลาการติดตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือสำหรับท่านใดที่ต้องการติดตั้งรางน้ำฝนด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์มากมายใดๆ
2. รางน้ำฝน PVC มีราคาเหมาะสมกว่า
รางน้ำฝน PVC ทั่วไปมีราคาอยู่ราวๆ 600 - 900 บาทต่อเมตร และมีอายุการใช้งานเฉลี่ยราวๆ 10 ปี เมื่อเทียบกับวัสดุอย่างเหล็กเคลือบที่มีราคาประมาณ 900 - 1,400 บาทต่อเมตร และมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเท่าๆ กัน ก็นับว่ารางน้ำฝนไวนิลมีราคาที่ถูกกว่ามากและมีคุณภาพเทียบเท่ากับรางน้ำโลหะ สำหรับเจ้าของบ้านท่านใดที่ต้องการประหยัดงบประมาณ วัสดุอย่างไวนิลถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างมาก
3. ทนทานต่อสภาพอากาศ ไม่เกิดสนิม
หนึ่งในข้อกังวลหลักของหลายคนเมื่อติดตั้งรางน้ำฝน คือ สนิมบนรางน้ำโลหะ ส่งผลให้รางน้ำผุกร่อนและเป็นรูรั่ว แต่หากเป็นรางน้ำ PVC (Polyvinly Chloride) หรือ uPVC (Unplasticized Polyvinyl Chloride) ก็มั่นใจได้ว่ารางน้ำจะปราศจากสนิม ไม่มีรูรั่ว อีกทั้งมีความทนทานและยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงกระแทกจากฝนตกหนักได้ดี ไม่เสียรูปเหมือนกับรางน้ำสังกะสี หรือรางน้ำสแตนเลสเกรด 201 ที่มีความบางและเสียหายได้ง่าย
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรางน้ำ ผู้ผลิตบางรายอาจใช้ส่วนผสมหรือสารเคลือบผิวในการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงยูวีและสิ่งสกปรกต่างๆ อีกทั้งรางน้ำไวนิลที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ตามมาตรฐานการผลิตในประดับเดียวกัน เจ้าของบ้านจึงหมดกังวลเรื่องมาตรฐานวัสดุได้เลย
4. ตอบโจทย์การออกแบบบ้าน
การตกแต่งบ้านภายนอกให้ดูดีเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนใส่ใจ เพราะถ้านำรางน้ำฝนโลหะที่มีสีเงินมาติดตั้งรอบเชิงชาย อาจทำให้ดูแปลกตา และไม่เข้ากับการดีไซน์บ้านสมัยใหม่มากนัก อีกทั้งรางน้ำโลหะยังไม่เหมาะกับการทาสี เพราะจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำลดลง แต่รางน้ำ PVC หรือรางน้ำไวนิลสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายๆ
รางน้ำ PVC ผลิตจากโรงงานพร้อมทำสีจากโรงงาน จึงมีหลายสีหลากรูปทรงให้เลือก เจ้าของบ้านสามารถตกแต่งให้เข้ากับสไตล์ของบ้านได้ง่ายๆ หรือจะติดตั้งรางน้ำให้แนบเนียนไปกับหลังคาก็สามารถทำได้
5. ดูแลรักษาง่าย ซ่อมแซมสะดวก
การดูแลทำความสะอาดรางน้ำฝนมักเป็นหนึ่งสิ่งที่เจ้าของบ้านมองข้ามหรือลืมที่จะทำไป พอรู้ตัวอีกที ก็กลับมีรอยรั่วบนรางหรือความเสียหายเกิดขึ้นกับรางน้ำเสียแล้ว แต่รางน้ำ PVC นั้นไม่เกิดสนิมเป็นคุณสมบัติเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ต้องดูแลรักษามากเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ รางน้ำไวนิลสำเร็จรูปนั้นมีขนาดมาตรฐานและให้อุปกรณ์มาเป็นชุดใช้คู่กัน คือ ตะขอแขวนรางและชิ้นส่วนรางต่างๆ เชื่อมกันด้วยซิลิโคน ซึ่งหากมีส่วนใดเสียหายก็สามารถที่จะเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรางน้ำหรือเชื่อมใหม่ทั้งหมด
อีกทั้งปัจจุบัน รางน้ำไวนิลมีอุปกรณ์เสริมอย่าง ตะแกรงกันใบไม้ ซึ่งมีขนาดพอดีกับรางน้ำ ป้องกันเศษใบไม้และสิ่งสกปรกที่ไหลมากับน้ำฝนไม่ให้ตกลงไปในรางน้ำได้ หมดกังวลเรื่องรางน้ำฝนอุดตันหรือน้ำฝนล้นราง
พอได้ทราบกันไปแล้วว่า รางน้ำ PVC นั้นมีข้อดีที่ทำให้แตกต่างจากวัสดุอื่นๆ อย่างไร ทั้งนี้สำหรับใครที่สนใจติดตั้งรางน้ำฝนไวนิลคุณภาพดีให้กับบ้านของตัวเอง ทาง VG พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ไวนิลชนิดพิเศษที่ไม่ซ้ำใครให้รู้จักกัน
รางน้ำฝนไวนิล iR-uPVC เทคโนโลยีเฉพาะของ VG
นวัตกรรม iR-uPVC คือ พลาสติกคุณสมบัติพิเศษ จากการใช้ส่วนผสมเคมีภัณฑ์คุณภาพชั้นนำระดับโลก โดยเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ VG และผ่านการผลิตจากเครื่องจักรที่ทันสมัย ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกด้าน ทั้งความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่แตกหักง่าย ไม่เกิดสนิม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 15 ปี พร้อมด้วยคุณสมบัติการปกป้องวัสดุที่ให้มากกว่าถึง 2 ชั้น
- ชั้นที่ 1 การปกป้องภายนอก (Outer Layer) ด้วยการเคลือบพิเศษด้วยสี Dupont สีจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก มีคุณสมบัติ Infrared Reflective ที่สามารถสะท้อนรังสี UV จากแสงแดดได้มากถึง 3 เท่า จึงไม่ทำให้เกิดสนิม ทั้งยังลดปัญหาอากาศร้อนบริเวณใต้ชายคาและช่วยลดความร้อนให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย
- ชั้นที่ 2 การปกป้องภายใน (Inner Layer) ด้วยคุณสมบัติที่เน้นความแข็งแรงทางโครงสร้าง ความทนทานและมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อกระทบกับน้ำและสภาพอากาศต่างๆ อยู่ตลอดเวลา จึงไม่เกิดการผุกร่อนหรือแตกหักได้ง่าย ช่วยให้คงสภาพรางน้ำได้ตลอดการใช้งาน สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
มั่นใจมากกว่าเดิมด้วยการผ่านการทดสอบ Weather Testing จากประเทศเยอรมัน สามารถรับรองว่าตอบโจทย์สภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนชื้น และมักเกิดพายุหรือฝนตกชุกอยู่บ่อยครั้ง ระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันผนังและสวนต้นไม้ไม่ให้เกิดความเสียหายจากน้ำฝนได้แน่นอน
โดยรางน้ำไวนิลจาก VG มีราคาเริ่มต้นที่ 650 บาทต่อเมตร ซึ่งถือว่าเป็นรางน้ำฝนราคาคุ้มค่าที่สุดกับคุณสมบัติและข้อดีที่ได้มา
สุดท้ายนี้ รางน้ำ VG ยังตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ มีให้เลือกถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ คือ รุ่น PRIMO รุ่น FIRST R2 และรุ่น EZY
หากสนใจรางน้ำ VG สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
สามารถสอบถามราคารางน้ำฝน และปรึกษา VG ผ่านช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
โทร.: 087-654-7788, 080-744-7799, 063-271-7711 (ENG)
อีเมล: info@mycnpgroup.com
LINA OA: @vg-cnp
Facebook: VG รางน้ำและหลังคาไวนิล